Ana səhifə

Personal oronoun


Yüklə 311.5 Kb.
səhifə2/6
tarix27.06.2016
ölçüsü311.5 Kb.
1   2   3   4   5   6

Verbs


Verbs แปลว่า “ กริยา ” ได้แก่ “ คำที่ใช้แสดงถึงการกระทำ หรือการถูกกระทำของคำที่เป็นประธาน หรือเป็นคำสอดแทรกเข้ามาทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นก็ได้ เพื่อบอกถึงมาลา (mood) วาจก (Voice) และกาล (Tense) ” ในภาษาอังกฤษแบ่ง Verb ออกเป็น 5 ชนิดด้วยกัน คือ : -

1. Transitive Verb = สกรรมกริยา

2. Intransitive Verb = อกรรมกริยา

3. Finite Verb = กริยาแท้

4. Non – Finite Verb = กริยาไม่แท้

5. Auxiliary Verb = กริยานุเคราะห์ (กริยาช่วย)




Transitive Verb


Transitive Verb แปลว่า “ สกรรมกริยา หมายถึงกริยาที่ต้องมีกรรมมารองรับ หรือมีกรรมมาขยายตามหลังเสียก่อน แล้วเนื้อความของกริยาตัวนั้นจึงจะฟังเข้าใจกันได้ “ สกรรมกริยาได้แก่กริยาต่อไปนี้ : -

Give , buy , bring , write , speak , hit , kick , see , lookat , order , open , close , wash , clean , etc. เช่น


My mother bought meat and eggs yesterday.

คุณแม่ของฉันซื้อเนื้อและไข่มาเมื่อวานนี้

Today my mother is going to buy…….at the market

วันนี้คุณแม่ของฉันจะซื้อ……ที่ตลาด

ประโยคแรก กริยา bought ได้เนื้อความสมบูรณ์ ฟังเข้าใจกันได้เพราะมีกรรมคือ meat และ eggs มารองรับใจความจึงชัดเจนขึ้น

ประโยคหลัง หริยา buy ฟังแล้วสงสัยไม่ทราบว่า ซื้ออะไรเพราะไม่มีกรรมมารองรับขยายตามหลัง เนื้อความยังไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นสกรรมกริยาจึงต้องให้มีกรรมมารับตลอดไป ใจความของประโยคจึงจะฟังกันรู้เรื่อง (เว้นแต่ผู้พูดและผู้ฟังรู้กันมาก่อนแล้วว่า คุกันเรื่องอะไร สกรรมกริยาไม่ต้องมีกรรมมารับก็ได้)



คำที่จะนำมาใช้ทำหน้าที่เป็นกรรมของสกรรมกริยา (Object of a transitive Verb) ได้นั้น ได้แก่คำต่อไปนี้


  1. นามทุกชนิด (All kinds of Nouns) เช่น : -

Our country needs the growth and development.

ประเทศของเราต้องการความเจริญก้าวหน้าและการพัฒนา

(growth and development เป็นกรรมของ needs)


  1. สรรพนาม (Pronoun) เช่น : -

I told him that he could pass his examination.

ผมบอกเขาว่าเขาสอบไล่ได้

(him เป็น Pronoun มาทำหน้าที่เป็นกรรมของ told)


  1. กริยาสภาวมาลา (ได้แก่ Infinitive) เช่น : -

These students want to continue their studies in a foreign country.

นักศึกษาเหล่านี้ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ

(to continue เป็นกริยาสภาวมาลา ทำหน้าที่เป็นกรรมของ want)


  1. คำกริยาที่เติม ing (Gerund) แล้วนำมาใช้อย่างนามเช่น : -

Ever since he has got bad health , he stops smoking cigarettes.

ตั้งแต่เขาไม่สบายนี้ เขาเลิกสูบบุหรี่แล้ว

(smoking เป็น Gerund ทำหน้าที่เป็นกรรมของ stops)


  1. วลีทุกชนิด (Phrases) เช่น : -

She doesn ‘ t know what to do for you.

หล่อนไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้คุณ

(what to do เป็นวลี ทำหน้าที่เป็นกรรมของ know)


  1. อนุประโยค (Subordinate Clause) เช่น : -

I know what he is going to do there.

ผมรู้ว่าเขาจะไปทำอะไรอยู่ที่นั่น

(what he is going to do there เป็นอนุประโยคทำหน้าที่เป็นกรรมของกริยา know)

Intransitive Verb


Intransitive Verb แปลว่า “ อกรรมกริยา ” ได้แก่ “ กริยาที่ไม่ต้องมีกรรมตามมา หรือมีกรรมมารองรับ เพราะมีเนื้อความสมบูรณ์อยู่ในตัวแล้ว ฟังเข้าใจได้ ปราศจากข้อสงสัยไม่คั่งค้าง ” กริยาต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทอกรรมกริยา คือ

Go ไป come มา run วิ่ง

Sleep หลับ sit นั่ง stand ยืน

Fly บิน light ส่องแสง dance เต้นรำ

Inhale หายใจเข้า exhale หายใจออก regret เสียใจ

Relapse ถอยกลับ stay พัก , อยู่ stifle สำลัก

etc.เช่น

Who comes ? ใครมา ?

(หลัง comes ไม่ต้องมีกรรมมารับเพราะได้เนื้อความสมบูรณ์)

My sister dances very well.

น้องสาวของผมเต้นรำได้ดีมาก

(หลัง dances ไม่ต้องมีกรรมมารับเพราะได้เนื้อความสมบูรณ์แล้ว ส่วน very well ที่ตามหลังอยู่นั้น ไม่ใช่กรรมแต่เป็น Adverb)


อกรรมกริยา (Intransitive Verb) ที่ยังต้องอาศัย Subjective Complement แล้วเนื้อความจึงจะสมบูรณ์นั้น เท่าที่นิยมใช้กันอยู่ได้แก่กริยาต่อไปนี้ : -

get = เป็น , มี grow = เจริญ , มี , เป็น

feel = รู้สึก become = เป็น , กลายเป็น

look = ดูเหมือน , ดูท่า prove = พิสูจน์ , แสดงให้เห็น

seem = ดูเหมือน appear = ปรากฎว่า

taste = ให้รส , มีรส sound = มีเสียง , ให้เสียง , มีท่า

turn = กลายเป็น, เปลี่ยนไป remain = ยังคงอยู่ต่อไป

stay = อยู่ต่อไป show = แสดงให้เห็น , บอกให้ทราบถึง

Verb to be = เป็น,อยู่ ,คือ Verb to have = (เฉพาะที่แปลว่า) มี

(ที่แปลไว้นี้แปลตามความหมายที่นำมาใช้อย่างอกรรมกริยาที่เรียก Subjective Complement เท่านั้น) ตัวอย่าง ประโยคเช่น : -

John looks unhappy. จอห์นดูท่าไม่สบาย

He felt good. เขารู้สึกสบายดี

The milk in that glass is bad. นมในแก้วนั้นเสียแล้ว

Your plan proved useless. แผนการของคุณใช้ไม่ได้เลย

That policy sounds practical. นโยบายนั้นฟังดูมีท่าเหมาะแก่การปฏิบัติ

She seemed sleepy. หล่อนดูคล้ายกับง่วงนอน

The sky turns grey. ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา

Apasara remains beautiful. อาภัสรายังคงสวยอยู่อย่างเดิม



Finite Verb


Finite Verb แปลว่า “ กริยาแท้ ” หมายถึง “ กริยาที่นำมาใช้เป็นส่วนสำคัญของประโยคอาจกล่าวได้ว่าทุกข้อความที่เราพูดหรือเขียนออกไปนั้น หากขาดเสียซึ่งกริยาแท้ (Finite Verb) แล้วข้อความนั้นจะเป็นประโยคขึ้นมาไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะฉะนั้นกริยาแท้จึงเป็นหัวใจหรือส่วนสำคัญของประโยคทีเดียวและให้สังเกตไว้อีกอย่างหนึ่งด้วยว่ากริยาแท้นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตาม Tense ต่าง ๆ ตลอดถึงตามตัวประธานที่ไปกระทำหรือแสดงกริยาตัวนั้น ๆ ด้วย ” ซึ่งจะขอยกตัวอย่างกริยา “ Come = มา” ให้ดูสัก 1 ตัวอย่างเพื่อประกอบความเข้าใจ เช่น : -

Who comes ? ใครมา

They came early. พวกเขามาแต่เช้า

That boy is coming early. เด็กคนนั้นก็มาแต่เช้า

The girls are coming early. เด็กหญิงก็มาแต่เช้า

We have come here early. เราได้มาที่นี่แต่เช้า

She has come here together. หล่อนก็มาที่นี่เหมือนกัน

(Come ซึ่งเป็นกริยาในประโยคข้างบนนี้ จะเห็นว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตาม Tense และประธานของประโยคนั้น ๆ ทั้งนี้ก็เพราะว่า come เป็นกริยาแท้ (Finite Verb) นั่นเอง



1   2   3   4   5   6


Verilənlər bazası müəlliflik hüququ ilə müdafiə olunur ©atelim.com 2016
rəhbərliyinə müraciət